“COVID & DOVISH”

สินทรัพย์เสี่ยงนำโดยน้ำมันและหุ้นกลุ่ม EM ปรับตัวลงจากเดือนที่แล้ว จากความกังวลการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ และ REITs โลกปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังเติบโตได้ดี

INDEGO Monthly Outlook
February 2020
Full PDF version

เดือนที่ผ่านมาสินทรัพย์เสี่ยงส่วนใหญ่ปรับตัวลง เนื่องจากความกังวลการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ และ REITs โลกปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังเติบโตได้ดี ด้านตราสารหนี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกที่ปรับตัวลง สวนทางกับราคา REITs โลกและทองคำที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง ขณะที่ REITs ไทยปรับตัวลงเล็กน้อยตามตลาดหุ้นไทย หุ้นญี่ปุ่น และหุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 และส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ด้านราคาน้ำมันปรับตัวลดลงจากความกังวลด้านอุปสงค์จะชะลอตัวลงจากการแพร่ระบาดในครั้งนี้

Fed มีการขยายขนาดงบดุล โดยตลาดคาดว่า Fed มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนก่อน ด้าน ECB และ BoJ ยังคงดำรงนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง

รายงานการประชุม FOMC เดือน ม.ค. Fed คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50-1.75% พร้อมเผยว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งอยู่ แต่ยังมีการขยายงบดุลอย่างต่อเนื่องไปจนถึงอย่างน้อยไตรมาสที่ 2/2020 ภายหลังเกิดการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทาง Fed มีความพร้อมที่จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินหากเกิดวิกฤต โดยอาจใช้มาตรการ QE และ Forward Guidance ทำให้ตลาดมองว่า Fed มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

ด้าน ECB และ BoJ ยังคงนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายเช่นเดิมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการเพิ่มขนาดงบดุลของธนาคารกลางหลักยังเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์ทางการเงิน

สหรัฐฯ และจีน “ปิดดีล” การเจรจาการค้าระยะแรก สร้างปัจจัยบวกสนับสนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

สหรัฐฯ เเละจีนได้ร่วมลงนามในการเจรจาการค้าระยะที่หนึ่ง นับเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญของประเด็นความขัดเเย้งที่เกิดขึ้นมาตลอดสองปี สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนเเละลดความกดดันต่อเศรษฐกิจโลกทั้งในภาคการผลิตเเละการส่งออก โดยสหรัฐฯ เริ่มกลับมาให้ความสำคัญกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะสหภาพยุโรปที่มีมูลค่าการค้าขายต่อสหรัฐฯ มากเป็นอันดับเเรกของโลก จึงทำให้ประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯ เเละสหภาพยุโรปอาจมีความสำคัญมากขึ้น ประกอบกับสหรัฐฯ ยังได้เพิ่มอัตราภาษีเหล็กกล้า เเละอลูมิเนียมที่ได้จัดเก็บไปตั้งเเต่ปี 2018 เพื่อป้องกันธุรกิจเหล็กกล้า เเละอลูมิเนียมภายในประเทศ

สหรัฐฯ ได้ร่วมลงนามในข้อเขตการค้าเสรีกับเม็กซิโกเเละเเคนาดา เพื่อเเก้ไขข้อตกลงการค้าที่สหรัฐฯ เคยเสียเปรียบต่อทั้งสองประเทศในข้อตกลงการค้าฉบับก่อนหน้า “NAFTA” เเละสนับสนุนเขตการค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุดสหรัฐฯ ได้ร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลกให้มีการปฏิรูปคณะกรรมการ เนื่องจากมองว่าทางคณะกรรมการของ WTO ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพจากกรณีที่ธุรกิจจีนได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งทำให้มีข้อได้เปรียบกว่าประเทศคู่ค้าอื่นๆ ในตลาดการค้าโลก

Brexit สิ้นสุดการเลื่อน

สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) อย่างเป็นทางการ ยังต้องติดตามการเจรจาข้อตกลงในช่วงเปลี่ยนผ่าน

สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ยังคงเป็นความเสี่ยงที่ทุกคนกังวล แต่ท่ามกลางความเสี่ยงนี้ก็มีโอกาสในการทยอยเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ราคาปรับตัวลงมาแล้ว

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ถูกตั้งให้เป็นภาวะฉุกเฉินสาธารณสุขระหว่างประเทศโดยองค์การอนามัยโลก โดยล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในจีนเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง ถึงแม้จะมีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์การวินิจฉัยโรคในวันที่ 12 ก.พ. 2020 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบโรคใหม่ ด้านที่ผู้ติดเชื้อใหม่ในต่างประเทศกลับปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ถึงแม้รัฐบาลจีนและธนาคารกลางจีนจะพยายามออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและสนับสนุนประชาชนและบริษัทที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังคงเกิดผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจจีนและโลกอยู่ดี เนื่องจากการปิดเส้นทางคมนาคมและการปิดเมืองในจีนจะส่งผลให้กลุ่มธุรกิจภาคการผลิตและบริการชะลอตัวลง นอกจากนี้ประเทศที่พึ่งพาจีน เช่น ไทย เวียดนาม และฮ่องกง ก็ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวและการผลิตสินค้าภายในจีนที่ลดลง

100% Awesomeness

100%

100% Brooklyn

100%
  • SHARE
Contact
Contact