Before Election

ตลาดหุ้นทั่วโลกมีการปรับฐานก่อนเข้าสู่ช่วงก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งมีความไม่แน่นอนจากผลคะแนนความนิยมของทรัมป์และไบเดนที่ยังสูงสี เช่นเดียวกับการแพร่ระบาดระลอก 2 ของ COVID-19 ในบางพื้นที่ เช่น ยุโรป รวมถึงตลาดหุ้นเกิดใหม่

INDEGO Monthly Outlook
October 2020
Full PDF version

เดือน ก.ย. ที่ผ่านมาสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวมปรับตัวลดลงนำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังตลาดกลับมากังวลกับการระบาดระลอกที่ 2 ของ COVID-19 เช่นเดียวกันกับความกังวลในความไม่แน่นอนหลังเริ่มเข้าใกล้ช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ มากขึ้น โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่ากดดันสินทรัพย์เสี่ยง เช่นเดียวกับทองคำที่เริ่มมีการปรับฐาน

ด้านธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายต่อไป โดยมีการส่งสัญญาณให้มีการร่วมใช้นโยบายการคลังควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะ Fed ที่ยังคงเพิ่มขนาดงบดุลและปรับเป้าหมายเงินเฟ้อให้ยืดหยุ่นมากขึ้น กลายเป็นเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยโดยจะยอมให้เงินเฟ้อสามารถดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2% ได้ในบางช่วงเวลา ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนไปใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวด   อีกครั้ง ขณะที่ในการประชุมเดือน ก.ย. Fed ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.25 และจากการเผยแพร่ค่าคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในอนาคตของตัวแทน Fed (Fed’s dot plot) บ่งชี้ว่า Fed จะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวจนถึงปี 2023 สะท้อนการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำได้อีกนาน อีกทั้งยังสะท้อนการดำเนินนโยบายเชิงผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องส่งผลบวกต่อสินทรัพย์ทางการเงิน

ด้านสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในบางประเทศเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น เช่น สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น แต่จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังคงพุ่งเกินกว่า 33 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในบางประเทศโดยเฉพาะในยุโรปกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งหลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลให้เกิดการระบาดในระลอกใหม่และทำให้ต้องกลับมาดำเนินมาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มงวดอีกครั้ง เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศเกิดใหม่หลายประเทศที่ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ ด้านการพัฒนาวัคซีน COVID-19 มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยมีวัคซีนที่เข้าสู่การทดลองเฟส 3 กว่า 11 ตัวแล้ว ในขณะที่วัคซีนที่มีการอนุมัติให้ทดสอบใช้ในวงจำกัดเพิ่มขึ้นมาเป็นจำนวน 5 ตัว

ด้านสถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯ เป็นประเด็นหลักที่ต้องติดตามในเดือนนี้ โดยจากผลการสำรวจพบว่าคะแนนความนิยมของ โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นแต่ยังคงน้อยกว่าคะแนนความนิยมของ โจ ไบเดน ซึ่งทั้งสองฝ่ายใช้วิธีการหาเสียงโดยการโจมตีกัน อย่างไรก็ตามคะแนนความนิยมของ โจ ไบเดน ที่ลดลงนั้นสร้างความกังวลให้กับทางเดโมแครตว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยการเลือกตั้งในปี 2016 ที่ทาง ฮิลลารี คลินตัน ชนะในส่วนของคะแนนสนับสนุนจากประชาชน (Popular Vote) แต่ต้องพ่ายแพ้ให้แก่ โดนัลด์ ทรัมป์ ในส่วนของคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) ทางด้านการคาดการณ์คะแนน Electoral Vote
ฝั่งเดโมแครตยังคงนำฝั่งของรีพับลิกันที่ 183 ต่อ 125 คะแนน โดยผู้ที่จะชนะการเลือกตั้งต้องมีคะแนนอย่างน้อย 270 คะแนนจาก 500 คะแนน ซึ่งในปัจจุบันมีรัฐที่มีคะแนนนิยมสูสีอีกหลายรัฐ โดยมีคะแนน Electoral Vote รวมสูงถึง 147 คะแนน ทำให้ทั้งสองฝ่ายยังคงต้องแข่งขันกันอย่างเข้มข้น

ด้านตลาดตราสารหนี้ซึ่งมีความสัมพันธ์และสะท้อนภาวะความเสี่ยงของตลาดการเงินได้ดีอย่างตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง (High Yield) จะพบว่าราคาของดัชนี High Yield Bond ETF มีการส่งสัญญาณปรับฐานหลุดแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่สร้างฐานมาตั้งแต่ช่วงการฟื้นตัวหลังช่วงเดือน มี.ค. เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงการปรับฐาน ทำให้เรามองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะปรับฐานในช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยเรามองว่าในระยะสั้นยังแนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง

สำหรับในเดือนนี้เรายังคงมุมมองเชิงระมัดระวังในการลงทุนโดยให้กระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์และทยอยเพิ่มน้ำหนักใน REITs ไทย-สิงคโปร์ รับการย้ายฐานธุรกิจของบริษัทจีนไปยังสิงคโปร์ นอกจากนี้แนะนำให้เฝ้าติดตามการโต้วาทีระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 และตัวเลขเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อรอโอกาสในการเข้าลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดีเพิ่มขึ้นหากตลาดมีการปรับฐานในอนาคต

  • SHARE
Contact
Contact