INDEGO Exclusive Content EP.11

เจาะลึกวัคซีน COVID-19 พร้อมโพยกองทุนเด็ด

เมื่อทั้งโลกเริ่มกระบวนการฉีดวัคซีนเพื่อเอาชนะวิกฤตการแพร่ระบาดครั้งนี้ เป็นที่แน่นอนว่าบริษัทผู้ผลิตวัคซีนจะได้รับคำสั่งซื้อวัคซีนอย่างล้นหลามและจะเป็นประโยชน์แก่บริษัทไม่มากก็น้อย หากคุณเชื่อมั่นว่าบริษัทเหล่านี้จะมีแนวโน้มเติบโตจากโอกาสดังกล่าว ในบทความนี้เราได้ทำการเจาะลึกถึงข้อมูลของวัคซีนเช่นเดียวกับชี้เป้ากองทุนเด็ดที่ลงทุนในบริษัทผู้ผลิตวัคซีนเหล่านี้

บริษัทผู้ผลิต: Pfizer และ BioNTech

ชื่อวัคซีน: BNT162b2

สัญชาติ: สหรัฐฯ – เยอรมนี

ประสิทธิภาพ: 95%

เทคโนโลยีในการผลิต: mRNA หรือ messenger RNA ซึ่งเป็นตัวกลางในการนำบางส่วนของพันธุกรรมไวรัสเข้าสู่เซลล์ร่างกายมนุษย์เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ร่างกายมีการสร้างโปรตีนเพื่อป้องกันเชื้อ COVID-19

จำนวนโดส: 2 โดส ห่างกัน 21 วัน

ราคาต่อโดส: 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อโดส

การเก็บรักษา: -70 องศาเซลเซียส อยู่ได้นาน 6 เดือน

ผลข้างเคียง: เหนื่อยง่าย ผื่นขึ้น ไข้ขึ้น ปวดหัว เวียนหัว

ประเทศที่สั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว: สหรัฐฯ, อังกฤษ, แคนาดา, จีน, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ ทวีปยุโรป และอีกมากมาย

ประเด็นที่น่าสนใจ: เป็นวัคซีนตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติตามมาตรการฉุกเฉินจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อีกทั้งยังมีรายงานว่าสามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์จากบราซิลได้ โดยทางบริษัทตั้งเป้าผลิตวัคซีนให้ได้ 3 พันล้านโดสในปีหน้าเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการทั้งโลก

มูลค่ากิจการของบริษัทผู้ผลิต: 1.87 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (Pfizer), 2.53 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (BioNTech)

กองทุนที่ลงทุนในบริษัทดังกล่าว: BCARE, UGH, UOBSHC, KFHEALTH-A, TGHRMF, TGHSTARP

บริษัทผู้ผลิต: Moderna

ชื่อวัคซีน: mRNA-1273

สัญชาติ: สหรัฐฯ

ประสิทธิภาพ: 94.1%

เทคโนโลยีในการผลิต: ใช้เทคโนโลยี mRNA เช่นเดียวกับบริษัท Pfizer

จำนวนโดส: 2 โดส ห่างกัน 28 วัน

ราคาต่อโดส: 32-37 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อโดส

การเก็บรักษา: -25 ถึง -15 องศาเซลเซียส เก็บได้นาน 6 เดือน

ผลข้างเคียง: ปวดกล้ามเนื้อ บวม มีรอยแดง อ่อนเพลีย หายใจถี่ ปวดศีรษะ

ประเทศที่สั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว: สหรัฐฯ แคนาดา ทวีปยุโรป อิสราเอล สิงคโปร์ และอีกมากมาย

ประเด็นที่น่าสนใจ: เป็นวัคซีนตัวที่ 2 ที่ได้รับการอนุมัติตามมาตรการฉุกเฉินจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) และสามารถใช้กับผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ เบาหวาน โรคอ้วน หรือแม้แต่ผู้ติดเชื้อ HIV

มูลค่ากิจการของบริษัทผู้ผลิต: 5.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กองทุนที่ลงทุนในบริษัทดังกล่าว: PRINCIPAL GHEALTH-A, K-CHANGE-A(A), ONE-UGG-RA

บริษัทผู้ผลิต: Johnson & Johnson

ชื่อวัคซีน: JNJ-78436735

สัญชาติ: สหรัฐฯ

ประสิทธิภาพ: มีประสิทธิภาพเฉลี่ยประมาณ 66.3% ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยและภูมิภาคหลังทดสอบกับผู้ป่วยจำนวน 43,783 ราย จากหลายภูมิภาคทั่วโลก

เทคโนโลยีในการผลิต: ใช้เทคโนโลยี Viral Vector หรือการใช้ชิ้นส่วนของไวรัสที่ไม่ก่อให้เกิดโรคมาตัดต่อสารพันธุกรรมแล้วไปใส่ไว้ในเซลล์ของมนุษย์เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสามารถสร้างแอนติบอดีเพื่อต่อต้านโรค

จำนวนโดส: 1 โดส

ราคาต่อโดส: 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อโดส

การเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส หรือเทียบเท่ากับการเก็บในตู้เย็น สามารถเก็บได้นานกว่า 3 เดือน แต่หากเก็บที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียสจะรักษาไว้ได้นานกว่า 2 ปี

ผลข้างเคียง: อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ

ประเทศที่สั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว: สหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักร ทวีปยุโรป และอีกมากมาย

ประเด็นที่น่าสนใจ: เป็นวัคซีนที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ได้อนุญาตให้ใช้เป็นเข็มที่ 2 แทนวัคซีนของ Pfizer และ Moderna สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้

มูลค่ากิจการของบริษัทผู้ผลิต: 4.18 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กองทุนที่ลงทุนในบริษัทดังกล่าว: KFHHEALTH-A, K-GHEALTH, TGHRMF, TGHSTARP

บริษัทผู้ผลิต: AstraZeneca และมหาวิทยาลัย Oxford

ชื่อวัคซีน: AZD1222

สัญชาติ: อังกฤษ-สวีเดน

ประสิทธิภาพ: 62-90% ขึ้นอยู่กับการปรับขนาดยา โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70%

เทคโนโลยีในการผลิต: ใช้เชื้อไวรัสที่เป็นพาหะมาดัดแปลงพันธุกรรม เพื่อให้ผู้ได้รับวัคซีนสามารถสร้างโปรตีนที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในการป้องกัน COVID-19

จำนวนโดส: 2 โดส ห่างกัน 28 วัน

ราคาต่อโดส: 3-4 ดอลลาร์สหรัฐฯ

การเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส สามารถเก็บได้นานกว่า 6 เดือน

ผลข้างเคียง: อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย และมีผลข้างเคียงที่น้อยสำหรับผู้สูงอายุ

ประเทศที่สั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว: ทวีปยุโรป, สหรัฐฯ, แคนาดา, ญี่ปุ่น, อินเดีย ไทย และอีกมากมาย

ประเด็นที่น่าสนใจ: มีการร่วมมือกับสถาบันในอินเดียเพื่อผลิตวัคซีนจำนวนมาก และเป็น Supplier รายใหญ่ที่สุดต่อโครงการ COVAX ในการจัดส่งวัคซีนไปยัง 142 ประเทศทั่วโลก

มูลค่ากิจการของบริษัทผู้ผลิต: 1.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กองทุนที่ลงทุนในบริษัทดังกล่าว: ONE-EUROEQ, BCARE, KFHHEALTH-A, K-GHEALTH, PHATRAGHC, UGH, KT-HEALTHCARE-A, SCBGHC, THEALTHCARE

บริษัทผู้ผลิต: Sinovac Biotech

ชื่อวัคซีน: CoronaVac

สัญชาติ: จีน

ประสิทธิภาพ: 50.38% ในทดลองที่บราซิล และ 91.25% สำหรับการทดลองที่ตุรกี

เทคโนโลยีในการผลิต: ใช้เชื้อไวรัสที่ตายแล้วมาสร้างวัคซีนที่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์

จำนวนโดส: 2 โดส ห่างกัน 14 วัน

ราคาต่อโดส: 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อโดส

การเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส หรือเทียบเท่ากับการเก็บในตู้เย็น เก็บไว้ได้นาน 3 ปี

ผลข้างเคียง: บวม แดง

ประเทศที่สั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว: ไทย สิงคโปร์ ลาว อินโดนีเซีย บราซิล โคลัมเบีย อุรุกวัย

ประเด็นที่น่าสนใจ: เป็นบริษัทที่เครือ CP ได้ทุ่มเงินกว่า 1.5 หมื่นล้านบาทเพื่อเข้าซื้อหุ้น 15%

มูลค่ากิจการของบริษัทผู้ผลิต: N/A

กองทุนที่ลงทุนในบริษัทดังกล่าว: N/A

บริษัทผู้ผลิต: Sinopharm

ชื่อวัคซีน: BBIBP-CorV

สัญชาติ: จีน

ประสิทธิภาพ: 79.34% และมีรายงานจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพสูงถึง 86%

เทคโนโลยีในการผลิต: ใช้เชื้อไวรัสที่ตายแล้วมาสร้างวัคซีนที่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์

จำนวนโดส: 2 โดส ห่างกัน 21 วัน

ราคาต่อโดส: 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ

การเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส หรือเทียบเท่ากับการเก็บในตู้เย็น

ผลข้างเคียง: คัน บวมแดง ปวดหัว ไข้ขึ้น อ่อนล้า มองเห็นไม่ชัด หอบหืด

ประเทศที่สั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว: จีน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตุรกี บราซิล บาห์เรน

ประเด็นที่น่าสนใจ: เป็นวัคซีนตัวที่ 2 ที่ได้รับการอนุมัติในจีน

มูลค่ากิจการของบริษัทผู้ผลิต: 7.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กองทุนที่ลงทุนในบริษัทดังกล่าว: N/A

บริษัทผู้ผลิต: Bharat Biotech และ ICMR

ชื่อวัคซีน: Covaxin

สัญชาติ: อินเดีย

ประสิทธิภาพ: 81%

เทคโนโลยีในการผลิต: ใช้เซลล์ของไวรัสที่ตายแล้วฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกัน

จำนวนโดส: 2 โดส ห่างกัน 28 วัน

ราคาต่อโดส: 4 ดอลลาร์สหรัฐฯ

การเก็บรักษา: เก็บในตู้เย็น 2-8 องศาเซลเซียส และเก็บในอุณหภูมิห้องได้มากกว่า 7 วัน

ผลข้างเคียง: ปวดหัว อ่อนเพลีย ปวดข้อ มีไข้

ประเทศที่สั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว: อินเดีย บราซิล ฟิลิปปินส์

ประเด็นที่น่าสนใจ: เป็นวัคซีนสัญชาติอินเดียที่ นเรนทา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เพิ่งทำการฉีดเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนดังกล่าว

มูลค่ากิจการของบริษัทผู้ผลิต: 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กองทุนที่ลงทุนในบริษัทดังกล่าว: N/A

บริษัท: Gamaleya

ชื่อวัคซีน: Sputnik V

สัญชาติ: รัสเซีย

ประสิทธิภาพ: 91.6%

เทคโนโลยีในการผลิต: ใช้เทคโนโลยี Viral Vector หรือการใช้ชิ้นส่วนของไวรัสที่ไม่ก่อให้เกิดโรคมาตัดต่อสารพันธุกรรมแล้วไปใส่ไว้ในเซลล์ของมนุษย์เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสามารถสร้างแอนติบอดีเพื่อต่อต้านโรค

จำนวนโดส: 2 โดส ห่างกัน 21 วัน

ราคาต่อโดส: 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อโดส

การเก็บรักษา: เก็บรักษาในอุณหภูมิของตู้เย็น 2-8 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 2 เดือน

ผลข้างเคียง: บวมแดง เป็นไข้ ปวดหัว

ประเทศที่สั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว: รัสเซีย, บราซิล, เม็กซิโก, เบลารุส, เมียนมา, ลาว, อิหร่าน

ประเด็นที่น่าสนใจ: มีผลสำรวจบ่งชี้ว่าประชาชนชาวรัสเซียจำนวนมากกว่า 58% ไม่เต็มใจที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนดังกล่าวแม้รัฐบาลจะอนุญาตให้ฉีดฟรีก็ตาม

มูลค่ากิจการของบริษัทผู้ผลิต: N/A

กองทุนที่ลงทุนในบริษัทดังกล่าว: N/A

เกร็ดเล็กน่ารู้: ปัจจุบันรัฐบาลไทยได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัท Sinovac และ AstraZeneca ในการจัดสรรวัคซีนให้ประชาชนชาวไทย อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำหลายราย เช่น โรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลรามคำแหง กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ได้ทำการยื่นเรื่องเพื่อนำเข้าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น Pfizer, Moderna, Johnson & Johnson และอีกหลายบริษัทเพื่อให้ประชาชนได้มีทางเลือกมากขึ้น

บทความโดย Winthemoney

——————

Sources: cnbc, CDC, Bloomberg, BBC, InfoQuest, Thairath, Bestreview, Bangkokpost, Posttoday, WHO, FDA, Pfizer, Moderna และ AstraZeneca

.

.

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ได้ประโยชน์จากความคืบหน้าด้านวัคซีนเหล่านี้สามารถเข้ารับการปรึกษาจากเราได้ในทุกช่องทาง

.

.

✅ สำหรับผู้สนใจลงทุนผ่านบริการของ INDEGO สามารถติดต่อลงทุนและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

🌐 Website: https://indegowealth.com

📧 อีเมล: [email protected]

📞 โทร: 02-233-9995

💻 Facebook: INDEGO WEALTH

🗓 ทุกวันทำการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8:30 – 17:30 น.

#ยืนหนึ่งเรื่องกองทุนต้อง INDEGO