Market Outlook & Investment Strategy

ปี 2020 วิกฤต COVID-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนโลกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่งผลให้ทั่วโลกต้องมีการปิดเมืองและจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศแบบเข้มงวด ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างหนักในไม่กี่สัปดาห์ แต่ธนาคารกลางและรัฐบาลทั่วโลกได้ออกมาตรการสุดโต่งเพื่อพยุงเศรษฐกิจเอาไว้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

INDEGO Yearly Outlook 2021
Full PDF version

ในปี 2021 นี้ เรามองว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีน COVID-19 ที่คาดว่าจะได้เห็นการผลิตและใช้งานได้จริงในปี 2021 และจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับเศรษฐกิจโลก ประกอบกับรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้นโยบายทางการคลัง ซึ่งนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านหลังวิกฤตที่สอดคล้องกันในหลายรัฐบาลทั่วโลกคือ นโยบายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี นโยบายการลดการปล่อยคาร์บอนและการผลักดันการใช้พลังงานทางเลือก ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่และเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้น และน่าจะทำให้ธีมการลงทุนเหล่านี้กลายเป็นธีมการลงทุนที่น่าสนใจและมีแนวโน้มเติบโตได้สูงในระยะยาว ขณะที่ความเสี่ยงสำคัญที่ต้องจับตาก็คือความรุนแรงของการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ตลอดจนความต่อเนื่องของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามเรามองว่าเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงในการฟื้นตัวในรูปแบบ “W-shape” นอกจากนี้การขึ้นมาดำรงตำแหน่งของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่เองก็ยังมีนโยบายที่อาจเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในระยะสั้น เช่น นโยบายการปรับขึ้นภาษี และนโยบายการออกกฎหมายควบคุมอำนาจการผูกขาดของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่

 

สำหรับแนวทางการจัดพอร์ตการลงทุนในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 เรามองว่าในช่วงหลังวิกฤตหุ้นจะเป็นสินทรัพย์ที่มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กทั่วโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีและสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นกว่าหุ้นขนาดใหญ่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลก ทั้งนี้หุ้นขนาดเล็กในสหรัฐฯ ก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากนโยบายการปรับขึ้นภาษีและการออกกฎควบคุมอำนาจการผูกขาดของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่น้อยกว่าหุ้นขนาดใหญ่ นอกจากนี้เรามองว่านโยบายทางด้านการต่างประเทศของ โจ ไบเดน ที่มีแนวโน้มเป็นมิตรและมีการเจรจากับคู่ค้าที่ดีขึ้นจะทำให้หุ้นนอกสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มตลาดเกิดใหม่กลับมาน่าสนใจมากขึ้น โดยเรามองว่าหุ้นตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นกว่าหุ้นตลาดพัฒนาแล้วจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ความตึงเครียดทางการค้าที่ลดลง และแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า โดยหุ้นตลาดเกิดใหม่กำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี ซึ่งกำลังมีธุรกิจยุคใหม่ เช่น กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร ที่กลายมาเป็นผู้นำในการเติบโตของกำไรและมีบทบาทในโครงสร้างตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นแทนธุรกิจแบบดั้งเดิม เช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่มการเงิน และกลุ่มวัสดุ โดยจีนจะเป็นผู้นำของกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่เศรษฐกิจภายในมีความเข้มแข็งและสามารถกลับมาเติบโตได้ในระดับสูง รวมถึงเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีพร้อมขึ้นมาท้าชิงความเป็นมหาอำนาจของโลก โดยเม็ดเงินลงทุนทั่วโลกยังมีแนวโน้มไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะจีนที่มีการเปิดเสรีทางด้านตลาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านสินทรัพย์ทางเลือกอย่างกองทุนอสังหาฯ (REITs) เองก็มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำไปอีกพักใหญ่และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ทองคำยังคงเหมาะต่อการใช้กระจายความเสี่ยง

  • SHARE
Contact
Contact