“ONLY THE PARANOID SURVIVE”

สินทรัพย์เสี่ยงนำโดยน้ำมันและหุ้นญี่ปุ่น ปรับตัวลงจากเดือนที่แล้ว จากความกังวลการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ขณะที่เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์หลบภัย เช่น ทองคำ และ ตราสารหนี้

INDEGO Monthly Outlook
March 2020
Full PDF version

เดือนที่ผ่านมาสินทรัพย์เสี่ยงส่วนใหญ่ปรับตัวลงอย่างรุนแรง โดยเราได้พบกับสัปดาห์ที่หุ้นทั่วโลกปรับตัวลงรุนแรงที่สุดหลังปี 2008 และการปรับตัวขึ้นรุนแรงของ Credit Spread ในตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากความกังวลการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่เริ่มรุนแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ หลังตัวเลขจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อรวมทั่วโลกทะลุเกิน 1 แสนราย และจำนวนผู้ป่วยนอกจีนที่เพิ่มขึ้นได้ปรับตัวขึ้นแซงหน้าจำนวนผู้ป่วยใหม่ในจีนแล้ว ส่งผลให้ธนาคารกลางและรัฐบาลทั่วโลกออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบฉุกเฉินลง 0.50% สู่ระดับ 1.00-1.25% นับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบฉุกเฉินครั้งแรกนับตั้งแต่หลังวิกฤติปี 2008 ส่งผลให้หลายธนาคารกลางทั่วโลกปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามมา โดยเรามองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบฉุกเฉินเป็นสัญญาณเชิงลบที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงมากกว่าคาด

โดยเรามีความกังวลต่อผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลกและส่งผลให้เกิดภาวะ Demand และ Supply Shock โดยภาคการผลิตมีการหยุดชะงักลงหลังจากได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมการระบาดของโรคในจีนและหลายประเทศ ขณะที่ภาคบริการโดยเฉพาะด้านภาคการท่องเที่ยว การค้า และการขนส่ง ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน ทำให้เรามองว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงและมีความเสี่ยงสูงในการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หากสถานการณ์รุนแรงไปมากกว่านี้ โดยเรามองว่าไทย ญี่ปุ่น และยุโรป มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยก่อนภูมิภาคอื่นๆ

ทั้งนี้เรามองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและการใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางหลายแห่งไม่สามารถที่จะช่วยให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มากขึ้นได้ เนื่องจากการลดดอกเบี้ยไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดในการทำให้เกิดการผลิตหรือผู้คนกลับมาจับจ่ายใช้สอยได้ในภาวะที่ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสได้ อาจจะพอช่วยได้แค่พยุงตลาดในระยะสั้น โดยสถานการณ์จะมีแนวโน้มดีขึ้นจากการควบคุมการระบาดของไวรัสนอกจีนได้ดีขึ้นหรือมีข่าวดีในการค้นพบยารักษาและวัคซีนสำหรับไวรัส COVID-19 ที่สามารถใช้ได้ในวงกว้าง

ซึ่งเรามองว่าน่าจะใช้ระยะเวลาเร็วสุดคือ 6-12 เดือนเป็นอย่างน้อย มากไปกว่านั้นการแตกคอกันในการควบคุมกำลังการผลิตของ OPEC และรัสเซียเป็นสัญญาณเชิงลบต่อราคาน้ำมันที่ยิ่งจะกดดันราคาน้ำมันและตลาดหุ้นทั่วโลก ทำให้เรามองว่าควรปรับลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

โดยในเดือนนี้เราแนะนำให้ปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและ REITs และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้เพื่อรักษาเงินลงทุนและเตรียมรับมือกับภาวะตลาดหุ้นขาลงที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

100% Awesomeness

100%

100% Brooklyn

100%
  • SHARE
Contact
Contact