INDEGO Exclusive Content EP.6 เจาะลึกปรัชญาแห่ง ARK วินาทีนี้ต้องยอมรับว่าเป็นช่วงเวลาทองของ ARK Invest อย่างแท้จริง โดยในปี 2020 ที่ผ่านมา ARK ได้บริหารจัดการกองทุน ETF ติดอันดับ Top 10 ของโลกทั้งสิ้น 3 กอง ได้แก่ ARK Genomic Revolution ETF, ARKG (อันดับ 1 ผลตอบแทน 185.32%) ARK Next Generation Internet ETF, ARKW (อันดับ 4 ผลตอบแทน 150.77%) และ ARK Innovation ETF, ARKK (อันดับ 6 ผลตอบแทน 148.25%) โดยกลยุทธ์ของ ARK คือ ใช้วิธีการบริหารแบบเชิงรุก หรือ Active ซึ่งสวนทาง ETF ส่วนใหญ่ที่ใช้วิธีการบริหารแบบ Passive โดยผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ARK คือ Cathie Wood หญิงแกร่งชาวมะกัน ผู้เป็นทั้ง CEO และ CIO ของ ARK ซึ่งตัดสินใจลาออกจากการเป็น CIO ของ AllianceBernstein และทำการก่อตั้ง ARK ในปี 2014 ARK ย่อมาจาก Active Research Knowledge โดย ARK เชื่อว่านวัตกรรม คือ กุญแจสำคัญในการเติบโตของรายได้และผลกำไรของบริษัทในระยะยาว และมองหาผู้นำโลกยุคใหม่ที่สามารถหาผลประโยชน์และสร้างกำไรได้จาก Innovation และมีความสัมพันธ์ หรือ Correlation ที่ต่ำเมื่อเทียบกับกลยุทธ์การลงทุนแบบดั้งเดิม ARK จะเน้นที่การเติบโตระยะยาว และไม่สนใจความผันผวนในระยะสั้น โดยมองว่าเมื่อหุ้นตกนั้นคือโอกาส ARK เน้นลงทุนใน Theme ที่จะเข้ามา Disrupt โลกยุคใหม่ พร้อมทั้งรวบรวมบุคลากรจากมากมายหลายสาย ไม่เพียงแต่สายการเงินเพื่อความหลากหลายทางวิชาชีพและความเชี่ยวชาญอย่างเฉพาะทางในการวิเคราะห์ที่แม่นยำ รวมถึงเน้นสร้างองค์กรที่เปี่ยมไปด้วยบุคลากรที่อายุไม่เยอะที่เปี่ยมไปด้วย Passion ARK ได้ผสมผสานเทคนิคการ Top Down และ Bottom Up เข้าด้วยกันเพื่อเฟ้นหาหุ้น โดยกระบวนการ Top Down เริ่มจากการเปิดอิสรภาพทางความคิดเพื่อระดมไอเดียจากคนในทีมว่าโลกกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางใด และจะมี Theme อะไรที่เข้ามาเปลี่ยนโลกบ้าง รวมถึงมีการหาไอเดียจากสื่อ Social Media และเมื่อหา Theme ได้แล้วจะใช้บุคลากรผู้เชี่ยวชาญทางนั้นเข้ามาร่วมวิเคราะห์หาโอกาสการลงทุน ส่วนการ Bottom Up นั้น ARK จะไม่สนใจการลงทุนตาม Benchmark และจะประเมินศักยภาพการสร้างรายได้และกำไร แนวโน้มค่าใช้จ่าย ส่วนแบ่งทางการตลาดและโอกาสการเติบโต รวมถึงมูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นตัวนั้นๆ ในอนาคตข้างหน้าอีก 5 ปี ซึ่งท้ายที่สุดการตัดสินใจจะต้องได้รับการยอมรับจาก Cathie Wood นอกจากนี้หลังจากเลือกหุ้นได้แล้ว ARK จะทำการติดตามหุ้นตัวนั้นๆ ในการประชุมทุกสัปดาห์เพื่อพิจารณาว่าควรเพิ่มหรือลดสัดส่วนมากเพียงใด โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานและความสามารถในการเติบโตระยะยาวเป็นหลัก นอกจากนี้ ARK ยังไม่หยุดยั้งและตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านการลงทุนในนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2021 นี้ สิ่งที่ ARK คิดว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกเรา ได้แก่ 1. Deep Learning “เหนือกว่ามนุษย์ คือ AI และเหนือกว่า AI คือ AI ที่ฉลาดกว่าเดิม” โดย Deep Learning คือการทำให้ AI สามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ด้วยตัวเองโดยใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างมหาศาล ตามมา เช่น รถยนต์ไร้คนขับ และ Smart Speaker เป็นต้น 2. The Re-Invention of the Data Center “ยกระดับขีดจำกัดของสมอง” เมื่อ CPU เปรียบเสมือนสมองของ Computer แต่เมื่อสมองนั้นถูกยกระดับให้เหนือกว่าเดิมจึงนำไปสู่ความชาญฉลาดและพัฒนาการที่มากยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้วคอมพิวเตอร์ที่เรามักใช้กันจะเลือกใช้ชิปสถาปัตยกรรม x86 จากบริษัท Intel อย่างไรก็ตามขีดความสามารถในการผลิตชิปของ Intel เริ่มล้าหลัง ส่งผลให้นักพัฒนาจากหลายๆ บริษัท เช่น Apple Microsoft รวมถึง Amazon ก็ได้หันมาพัฒนาสถาปัตยกรรมใหม่ที่เรียกว่า ARM หรือ Advanced RISC Machine ที่มีขนาดเล็กลง ประมวลผลได้รวดเร็วกว่าและราคาถูกกว่าเข้ามาแทนที่ ซึ่งจะทำให้การต่อยอดสู่การพัฒนา Devices ที่มีขนาดเล็กแต่ชาญฉลาดทำได้ง่ายขึ้น 3. Virtual Worlds “จะดีกว่าไหมหากเราเลือกเกิดได้” ในโลกเสมือน หรือ โลกแห่งเกม เราสามารถเป็นใครคนที่พิเศษได้แบบไร้ขีดจำกัดตามที่เราอยากจะเป็น โดยหากเราเข้าไปอยู่ในพื้นที่ๆ เรามีความสุข ทำให้เรามีแนวโน้มใช้เวลาอยู่กับโลกเสมือนมากขึ้น และมีโอกาสใช้เงินจริงเพื่อซื้อสินค้าในโลกเสมือนหรือเกมเพื่อความมีตัวตนและการเป็นที่ยอมรับจากผู้อื่น และทำให้ผู้พัฒนาสามารถต่อยอดไปสู่การคิดค้นอุปกรณ์ Augmented Reality (AR) หรือการสมมุติสิ่งของบนพื้นที่จริง รวมถึงอุปกรณ์ Virtual Reality (VR) หรือการสร้างสภาพแวดล้อมในโลกเสมือน ซึ่งทาง ARK มองว่าเทคโนโลยีดังกล่าวยังมีขีดจำกัดในปัจจุบัน แต่จะมีความสมจริงมากขึ้นและสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ในช่วงปี 2030 4. Digital Wallets “สังคมไร้เงินสดสะดวกสบายเป็นไหนๆ” ทุกวันนี้เราลดการเข้าสาขาของธนาคารลงและใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันอย่าง K PLUS, SCB Easy หรือแม้กระทั่ง เป๋าตัง แต่ในระดับสากลนั้น มีบริษัทจำนวนมากที่ผันตัวมาเป็นธนาคาร เมื่อเราสามารถใช้จ่ายผ่าน Alipay, WeChatPay รวมถึง Grab Pay ได้แล้ว ซึ่งไม่เพียงแค่การใช้จ่าย แต่ยังต่อยอดไปสู่บริการต่างๆ มากมาย เช่นการขอสินเชื่อ รวมถึงการลงทุน 5. Bitcoin Fundamentals “เมื่อ Bitcoin ไม่ใช่แค่เรื่องสมมุติ แต่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง” โดย ARK มองว่าที่ Bitcoin ราคาขึ้นมาแรงในรอบนี้มีปัจจัยพื้นฐานมารองรับสะท้อนผ่านการที่สถาบันต่างๆ เริ่มยอมรับสกุลเงินคริปโตมากขึ้น ขณะที่บริษัท Paypal ก็ได้อนุญาตให้สามารถซื้อขายสกุลเงินคริปโตในแพลตฟอร์มได้ และบางบริษัท เช่น Square ก็ได้เลือกกระจายการลงทุนมาใน Bitcoin เช่นกัน และหากในอนาคตบริษัทอื่นๆ เลือกพิจารณาที่จะนำ Bitcoin มาเป็นทางเลือกในการลงทุนเพื่อบริหารสินทรัพย์จะทำให้มูลค่าของ Bitcoin นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล 6. Bitcoin: Preparing For Institutions…