The Shows Still Go On
🔹 เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ราคาสินทรัพย์เสี่ยงยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัญญาณทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed ประกาศคงดอกเบี้ยและปรับคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2024 ให้มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น ด้านตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงปรับตัวขึ้นต่อแม้ BOJ จะทำการยุตินโยบายดอกเบี้ยติดลบ
INDEGO Market Outlook
April 2024
“The Shows Still Go On”
🔹 เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ราคาสินทรัพย์เสี่ยงยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัญญาณทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed ประกาศคงดอกเบี้ยและปรับคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2024 ให้มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น ด้านตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงปรับตัวขึ้นต่อแม้ BOJ จะทำการยุตินโยบายดอกเบี้ยติดลบ
🔹 ด้านผลการประชุม FOMC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ตามตลาดคาดการณ์ พร้อมยังคงนโยบาย QT แต่ได้เริ่มมีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการชะลอการทำ QT ในระยะถัดไป นอกจากนี้ยังปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ปี 2024 ในขณะที่ด้าน Dot Plot ยังคงมุมมองการปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง สำหรับปี 2024
🔹 ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี เป็นการปิดฉากนโยบายดอกเบี้ยติดลบ พร้อมทั้งยุติการเข้าซื้อ ETF และ J-REIT เเต่ด้านประธาน BOJ ยังคงยืนยันว่านโยบายการเงินในภาพรวมจะยังเป็นโทนผ่อนคลาย ส่งผลให้ตลาดหุ้นยังปรับตัวขึ้นต่อได้
🔹 สำหรับในเดือนที่ผ่านมาเรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจในภาพรวม สะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่กลับมาขยายตัวทั้งภาคการผลิตและบริการเป็นครั้งแรกตั้งเเต่ปี 2022 รวมถึงภาคแรงงานที่สำคัญอย่างสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่เศรษฐกิจในประเทศอื่นก็มีปัจจัยหนุนที่เฉพาะตัวด้วยเช่นกัน
🔹 ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในดัชนี STOXX 600 ปี 2023 โดยรวมรายได้ และกำไรต่อหุ้น มีการปรับตัวลดลง โดยถูกกัดดันจากกลุ่ม Energy, Material และ Utilities เป็นหลัก จากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการปรับตัวลดลงในปี 2023 รวมถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับสูงกดดันภาพรวมเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามระยะต่อไปมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ และค่าแรงที่ขยายตัวขึ้น รวมถึงคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ ECB
🔹 ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในดัชนี TOPIX ปี 2023 โดยรวมรายได้ของบริษัทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่กำไรต่อหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากขึ้น จากการปรับขึ้นค่าแรงของบริษัทต่างๆ ให้สอดคล้องกับเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงฐานกำไรต่อหุ้นของปี 2022 ที่สูง เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่าอย่างหนัก ช่วยหนุนกำไรของบริษัทส่งออก
🔹 ในขณะที่ผลสรุปการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ที่ตลาดจับตา ไม่ได้มีมาตรการขนาดใหญ่ออกมา Surprise ตลาด แต่ยังบ่งชี้ถึงภาครัฐจีนที่มีทิศทางผ่อนคลาย และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า บ่งชี้เศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว
🔹 ด้านตลาดหุ้นอินเดียย่อตัวลง นำโดยหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยถูกกดดันจาก The Association of Mutual Fund ที่ออกมาเตือนให้กองทุนต่างๆ จำกัดการรับเงินลงทุนเพิ่มในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก เนื่องจากกังวลว่าหากหุ้นมีการปรับตัวลงอย่างหนัก หรือมีการเทขายกองทุน อาจทำให้ตลาดปรับฐานแรงได้ อย่างไรก็ตามเรามองประเด็นดังกล่าวจะกดดันตลาดเพียงระยะสั้น และตลาดหุ้นสามารถกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้แล้ว
🔹 ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการของการเลือกตั้งประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย ออกมาในทิศทางเดียวกันกับการนับคะแนนแบบ Quick Count ส่งผลให้ทางคุณปราโบโว ได้รับสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย ซึ่งจะมีการแต่งตั้งและกล่าวคำสาบานตนในช่วง ต.ค. 2024 โดยเรายังคงแนะนำทยอยสะสมตลาดหุ้นอินโดนีเซียจากศักยภาพการเติบโตในระยะยาวดังเดิม รวมถึงแรงหนุนจากการเลือกตั้ง ที่สถิติในอดีตบ่งชี้ว่าในปีเลือกตั้งตลาดหุ้นมักให้ผลตอบแทนที่โดดเด่น
🔹 ด้านตลาดหุ้นเวียดนามเผชิญแรงกดดันจากข่าวการทุจริตของบริษัทอสังหาฯ และความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังประธานาธิบดีประกาศก้าวลงจากตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนประธานาธิบดีคนที่ 3 ในรอบ 1 ปี นอกจากนี้ด้านภาคอสังหาฯ ยังเผชิญความท้าทายเนื่องจากมูลค่าหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปี 2024 มีปริมาณสูง ซึ่งอาจส่งผลกดดันตลาดได้ในระยะสั้น
🔹 สำหรับมุมมองของเราในเดือนนี้ เรายังคงมุมมองคำแนะนำผ่านการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสมในหลายประเภทสินทรัพย์ และหลากหลายภูมิภาค โดยแนะนำทยอยสะสมสินทรัพย์หุ้น หลังเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น นำโดยหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงหุ้นในประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง อาทิ อินโดนีเซีย เวียดนามและอินเดีย และหุ้นไทยที่ยังรอรับปัจจัยบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลังงบประมาณฯ 2567 กำลังจะมีผลบังคับใช้ในเดือน เม.ย. รวมถึงแบ่งการลงทุนในกลุ่ม Healthcare เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนให้กับพอร์ตการลงทุนได้ และสะสมสินทรัพย์ Global REITs ที่ยังมีพื้นฐานแข็งแกร่งและน่าสนใจช่วงสิ้นสุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ขณะที่ตราสารหนี้ยังแนะนำทยอยสะสมต่อไปจากระดับอัตราผลตอบแทนที่อยู่ในระดับสูง
INDEGO
Independence for Global Opportunities
#ยืนหนึ่งเรื่องกองทุนต้อง INDEGO
#รู้ลึกรู้จริง วิเคราะห์อย่างเป็นระบบ
#ให้คำปรึกษาที่เป็นกลางที่สุด